ทำความเข้าใจในการก่อสร้างบ้านและต่อเติมบ้าน
เราต้องเข้าใจความต้องการของตัวเอง รวมถึงสิ่งที่จำเป็นต่างๆที่จะทำให้บ้านของเราเป็นเหมือนที่พักกายและที่พักใจ ในยามที่เราพักคนที่ปลูกสร้างบ้านเองมักมีปัญหายุ่งยากชวนให้ปวด เมื่อเริ่มทำการก่อสร้างก็มีปัญหาการเลือกซื้อวัสดุก่อสร้างที่ได้มาตรฐาน มีการเปลี่ยนแปลงแบบก่อสร้างเพราะเปลี่ยนแปลงความต้องการในการใช้งาน แต่จริงๆแล้วการสร้างบ้านของตนเองนี้ไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องการก่อสร้างทั้งหมดก็ได้ แต่เพียงแค่ทราบรายละเอียดหลักๆที่จะทำให้ได้บ้านที่ทั้งสวย และมั่นคงปลอดภัยก็พอแล้ว
การขออนุญาตก่อนปลูกบ้าน
- กรอกคำขออนุญาตก่อสร้างอาคาร ดัดแปลงอาคารหรือรื้อถอนอาคาร
- แบบแปลนแผนผัง จำนวน 5 ชุด
- หนังสือรับรองว่าเป็นผู้ออกแบบ สถาปนิก และวิศวกร พร้อมสำเนาใบอนุญาต
- สำเนาโฉนดที่ดินที่จะก่อสร้าง
- สำเนาบัตรประชาชน หรือทะเบียนบ้านเจ้าของอาคาร ในกรณีเป็นนิติบุคคลใช้หนังสือรับรองการจดทะเบียน
วิธีการแบ่งงานของสถาปนิกและมัณฑนากร
- งานของสถาปนิก คือ การออกแบบตัวบ้านเพื่อครอบคลุมห้องต่างๆให้กลมกลืนและมีความงามต่อเนื่องกัน พร้อมทั้งสามารถป้องกันแดดฝนรวมถึงการรับลมตามธรรมชาติด้วย
- งานของมัณฑนากร คือ การออกแบบตกแต่งภายใน รวมถึงรายละเอียดของผนัง พื้น ฝ้าเพดาน พร้อมทั้ง เฟอร์นิเจอร์ และส่วนประกอบต่างๆ ซึ่งจะต้องสอดคล้องกับประโยชน์ใช้สอยที่สถาปนิกออกแบบไว้
ขั้นตอนการปลูกสร้างบ้าน
- ตอกเสาเข็ม หล่อฐานรากหรือ เสาเข็ม คานคอดิน และตั้งเสาชั้นล่าง
- หล่อคานชั้นบน และเสาสำหรับรับหลังคาชั้น 2
- มุงหลังคา ก่ออิฐผนัง ฉาบปูน ติดตั้ง วงกบ ใส่ฝ้าเพดาน
- ปูวัสดุพื้น ติดตั้งประตู หน้าต่าง ติดตั้งระบบท่อน้ำ
- บุผนังกระเบื้อง ติดตั้งสุขภัณฑ์ ทาสี เดินสายไฟ ติดตั้งดวงโคม เก็บรายละเอียดส่วนที่เหลือให้เรียบร้อย
การสร้างสิ่งปลูกสร้าง
เพื่อความเข็งแรงคงทนถาวร เราควรจะต้องเน้นเรื่องฐานรากให้มาก เพราะว่าฐานรากถือว่าเป็นองค์ประกอบที่สำคัญอย่างหนึ่งของโครงสร้าง เสาเข็ม จึงมีส่วนสำคัญในการรับน้ำหนักโครงสร้างเป็นอย่างมากสำหรับสิ่งปลูกสร้างก็จะใช้เสาเข็มแตกต่างกันไป อย่างเช่น บ้านจะใช้ เสาเข็มจะรับน้ำหนักได้มากหรือขึ้นอยู่กับองค์ประกอบหลายๆ ประการด้วยกัน เช่น ขนาดของเสาเข็ม รูปทรงของเสาเข็ม ความลึกในการตอกเสาเข็ม เป็นต้น
สภาพดินก็มีส่วนสำคัญมากเช่นกัน ว่าเสาเข็มจะรับน้ำหนักได้มากน้อยเพียงใด เพราะว่าดินแต่ละพื้นที่ก็มีสภาพแตกต่างกันออกไปแล้วแต่สภาพของดิน ดังนั้นการตอกเสาเข็มต้องเลือกให้ดี และตอกให้ได้ความลึกที่ได้มาตรฐาน เสาเข็มยืนอยู่บนชั้นดินที่แข็งพอจะสามารถรับน้ำหนักโครงสร้างได้